ขอบคุณภาพ: UFC
คาลิล ราวน์ทรี นักสู้อเมริกันหัวใจไทยแห่งศึก UFC เปิดใจถึงแรงบันดาลใจในการเรียนวิชามวยไทยและเป็นอาวุธหลักสำหรับการต่อสู้ในสังเวียน UFC พร้อมกับเล่าถึงประสบการณ์การฝึกซ้อม มวยไทย รวมถึงการบุกห้องแต่งตัว เวทีมวยราชดำเนิน เมื่อครั้งมาเยือนประเทศไทยในอดีตด้วย
“ผมรู้จักมวยไทยครั้งแรกจากนักสู้ในศึก UFC คนหนึ่งที่ชื่อ วานเดอร์เลย์ ซิลวา ผมเห็นสีข้างของเขามีรอยสักว่า มวยไทย และผมก็ชื่นชอบสไตล์ของเขา จากนั้นผมก็เข้าไปดูในโลกออนไลน์ จึงได้เห็นมวยไทยของจริงใที่ประเทศไทย”
“หลังจากนั้นผมก็ค้นพบยิมแห่งหนึ่ง และผมก็บอกกับพวกเขาว่า ผมอยากเรียนมวยไทย ซึ่งมันช่วยให้ผมเปลี่ยนชีวิตได้ เพราะเมื่อก่อนผมหนัก 300 ปอนด์ และตอนที่ผมฝึกมวยไทย ผมลดน้ำหนักได้ถึง 100 ปอนด์”
เจ้าของสถิติชนะ 13 แพ้ 5 เคยเดินทางถึงประเทศไทย เพื่อฝึกวิชามวยไทยมาแล้ว ณ ค่ายมวยเพชรยินดี ก่อนที่จะเดินทางมายังแดนสยามอีกครั้งในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดย ราวน์ทรี ได้เล่าถึงประสบการณ์การร่ำเรียนมวยไทยกับเหล่านักมวยไทยตัวท็อปจากค่าย เพชรยินดี ว่า
“ผมไม่ได้เรียนมวยไทยแบบจริงๆจังๆ จนกระทั่งผมได้ไปที่ประเทศไทย ตอนที่ผมมาประเทศไทยครั้งแรก ผมเลือกฝึกที่ค่าย เพชรยินดี เพราะพวกเขามีนักสู้ระดับแชมป์เปี้ยนหลายคนในขณะนั้น ผมต้องการดูว่าพวกเขามีวิธีการฝึกซ้อมอย่างไร และเข้มข้นแค่ไหน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไปซ้อมที่นั่น”
“ผมได้พบกับอาจารย์วัฒน์และ ซาบาส ไมเคิล อาจารย์เอ ก้องพิภพ และเทรนเนอร์คนอื่นๆ อีกหลายคน เขาก็สอนผมหลายอย่าง เขาเป็นคนดีและเข้มแข็ง และเมื่อผมมาถึง พวกเขาก็เริ่มสอนผมว่า คุณต้องรู้จักเทคนิคมวยไทยที่แท้จริง และพวกเขาก็ยินดีต้อนรับผม มันเหมือนกับครอบครัว”
“เราทำทุกอย่างด้วยกัน กิน นอน ออกไปวิ่ง ทุกสิ่งที่เราทำร่วมกัน และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเป็นที่ต้อนรับมาก ผมรู้สึกได้รับการต้อนรับในประเทศไทยมากกว่าในประเทศผมเองด้วยซ้ำ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเลือกที่จะอยู่ที่ประเทศไทยเป็นเวลานาน”
สำหรับ คาลิล ราวน์ทรี เพิ่งจะกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล โดยเฉพาะในประเทศไทย จาการที่เจ้าตัวโชว์วิชาการไหว้ครูอย่างสวยงาม หลังเอาชนะ TKO แอนโธนีย์ สมิธ คู่ปรับเพื่อนร่วมชาติ ในรองคู่เอกของศึก UFC® FIGHT NIGHT: SONG vs GUTIERREZ
“ผมจะบอกว่าสิ่งสำคัญที่ผมชอบเกี่ยวกับมวยไทยคือจิตวิญญาณ ผมคิดว่ามวยไทย คือจิตวิญญาณของนักสู้และจิตวิญญาณของสนามกีฬาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังอย่าง ราชดำเนิน และ ลุมพินี”
“บรรยากาศในสนาม มันคือจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อย่างแท้จริง เสียงปี่ กลอง การไหว้ครู ก็ถือเป็นที่สิ่งผมชอบ เพราะมันคือที่สวยงาม นักมวยไทยมีจิตวิญญาณและหัวใจของนักสู้อยู่ในตัว รวมไปถึงคนไทยด้วย”
นอกจากนี้ The War Horse ยังได้เล่าถึงประสบการณ์และความรู้สึก หลังได้มีโอกาสบุกห้องแต่งตัวของสังเวียนมวยไทยในตำนานอย่าง เวทีมวยราชดำเนิน ว่า
“ผมเคยไปที่ห้องล็อคเกอร์รูมของ เวทีมวยราชดำเนิน มันเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นนักสู้ทุกคนในห้องล็อกเกอร์เดียวกัน แต่ทุกคนยิ้มแย้มเป็นมิตร และดูมีความสุขที่ได้อยู่ที่นั่น มันไม่ได้มีความก้าวร้าวอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นนักสู้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้”
“คุณรู้ไหมว่าสังเวียนการต่อสู้อย่างเวทีมวยไทย เป็นสถานที่ที่นักสู้สามารถแสดงให้เห็นถึงหัวจิตหัวใจ และผลลัพท์จากการทำงานหนัก ที่นั่นทุกคนให้การเคารพซึ่งกันและกัน ไม่มีใครโห่ และไม่มีใครดูแคลนกัน”
📌 เบียร์นำทัพ! แบโผ 27 แข้งทีมชาติไทย U23 เก็บตัวมกราคมนี้ – อุ่นปิด 3 นัด
📲Facebook: https://www.facebook.com/SabasportsThailand/
💻YouTube: https://www.youtube.com/@sabasportsthailand/videos
🕹Discord: https://dsc.gg/sabasports
📸Instagram: https://www.instagram.com/sabasports.th