ความสำเร็จของ วิทยา เลาหกุล, ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หรือแม้แต่ วรวรรณ ชิตะวณิช ในต่างประเทศ ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยนับล้านต่างฝันเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง พวกเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงกับฮีโร่ของพวกเขาให้ได้มากที่สุด
จากรุ่นสู่รุ่น ก็ยังไม่มีใครที่ผงาดขึ้นมาสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับวงการฟุตบอลไทยโดยเฉพาะการค้าแข้งในต่างแดน แม้จะมีนักเตะระดับตำนานอีกหลายคนก้าวออกจากเซฟโซนเพื่อไปลุยชีวิตลูกหนังต่างแดนทั้ง มาเลเซีย, สิงคโปร์ หรือ เวียดนาม แต่ด้วยมาตรฐานที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับ ไทยลีก สักเท่าไหร่ ทำให้แฟนบอลไทยยังคงต้องรอต่อไป
กระทั่งชื่อของ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, ธีรศิลป์ แดงดา และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ก้าวมาอยู่ในใจของแฟนบอลไทยทั้งประเทศในฐานะ “ความหวัง”
ชนาธิป, ธีราทร และธีรศิลป์ คือสามคนแรกที่บุกตะลุยเจลีกในสีเสื้อ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, วิสเซล โกเบ และซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ล้วนแต่ถูกปรามาสว่าสุดท้ายแล้วก็คงเข้าอีหรอบเดิมนั่นคือ ปรับตัวไม่ได้, อากาศหนาวเกินไป และสุดท้ายคือ “โฮมซิค” หรือ คิดถึงบ้าน นั่นเอง
เสียงดูถูกมากมายสาดใส่เข้าไปยังพวกเขา แต่เชื่อหรือไม่ว่า ทั้งหมดนี้สามารถเอาตัวรอดบนเวทีฟุตบอลที่มาตรฐานสูงลิบ ระเบียบวินัย การเอาตัวรอดจากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากไทยอย่างสิ้นเชิง ความดิ้นรน ความอดทนต่อความเหน็ดเหนื่อย ทั้งหมดนี้ล้วนมีอยู่ในตัวพวกเขาจนสุดท้ายทั้งสามสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างเป็นใบเบิกทางไปยังน้องๆ รุ่นต่อไป กระทั่ง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้รับโอกาสจาก โออิตะ ทรินิตะ
ชนาธิป สร้างความยิ่งใหญ่ในสีเสื้อซัปโปโร จนกลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ของทีมมากมาย รวมถึงความสำเร็จของการติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาล ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะย้ายไปร่วมทีมระดับแชมเปี้ยนอย่าง คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ ด้วยค่าตัวหลักร้อยล้านบาท ขณะที่ ธีราทร ก็โยกไปยืนแบ็กซ้ายที่ขาดไม่ได้ของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เช่นเดียวกับ ธีรศิลป์ ที่หวนคืนแดนปลาดิบอีกครั้งกับ ชิมิสึ เอสพัลส์ จนสุดท้ายเรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็มาถึงนั่นคือ การได้ชูถาดแชมป์เจลีกของ ธีราทร ส่งให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของ ญี่ปุ่น ได้ ท่ามกลางรอยยิ้ม และน้ำตาแห่งความปลื้มปิติของแฟนบอลไทยทั้งประเทศ
วันเวลาผ่านไป ด้วยอายุที่มากขึ้น ทั้งสี่คนต่างกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ ไทยลีก แม้ว่ามาตรฐานของวงการฟุตบอลบ้านเราจะยังตามหลัง ญี่ปุ่น แบบเทียบไม่ติด แต่อย่างน้อย การกลับมาของนักเตะไทยทั้งสี่คนนี้ ก็ช่วยให้ฟุตบอลไทยกลับมาน่าสนใจน่าติดตามอีกครั้ง และทุกๆ สิ่งที่พวกเขาต่างเคยฝากไว้ที่ ญี่ปุ่น จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่อยู่เคียงคู่ไปกับฟุตบอลไทยตราบชั่วฟ้าดินสลาย พร้อมกับกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยที่รักในฟุตบอล และพร้อมจะใช้ฟุตบอลเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง และครอบครัวตลอดกาล
📌 อิชิอิ โดนรับน้อง! ลูเวินปัดปล่อย ศุภณัฏฐ์ – เรียก วรชิต ติดธงแทน เกมบุกดวล ญี่ปุ่น
📲Facebook: https://www.facebook.com/SabasportsThailand/
💻YouTube: https://www.youtube.com/@sabasportsthailand/videos
🕹Discord: https://dsc.gg/sabasports
🎼TikTok: https://www.tiktok.com/@sabasportsthailand
📸Instagram: https://www.instagram.com/sabasports.th